ทำไม สเปรย์ระงับกลิ่นกาย ลดกลิ่นตัวแรง 19 Herbal ของเรา จึงปลอดภัยสูงสุด(ตอนที่ 2)

        พาราเบน(parabens) เพราะเป็นสารกันเสียที่ราคาถูก จึงมักถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้กับร่างกายเพื่อป้องกันการเสีย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ แชมพู หรือโรลออนระงับกลิ่นกาย แม้จะยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่า การใช้โรลออนที่มีการใส่สารพาราเบนเป็นสารกันเสียต่อเนื่องเป็นประจำ จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติในเซลล์และฮอร์โมนเพศหญิง – เอสโตรเจน จนอาจก่อให้เกิดเป็น”มะเร็งเต้านม” ได้

      แต่จากการวิจัยของ the Environmental Working Group (EWG) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รายงานผลสรุปไว้ว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่สารกันเสียพาราเบนจะส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จนทำให้เกิดการแพ้ และระคายเคืองได้ และจากการที่พาราเบนส่งผลกระทบในการทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนี่เอง จึงกล่าวได้ว่า พาราเบนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เซลล์มีความผิดปกติจนเกิดเป็นมะเร็ง เพราะสารพาราเบนสามารถซึมผ่านเข้าทางผิวหนัง และเข้าสู่กระแสเลือดจากการใช้โรลออน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆได้

    นอกจากนี้ พาราเบน(parabens) ยังสามารถทำลายฮอร์โมนของร่างกายที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ทั้งเพศชายและเพศหญิง เช่น เอสโตรเจน และ เทสโทสเตอโรน จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่า สาร Butylparaben และ Propylparaben สามารถก่อให้เกิดพิษต่อระบบสืบพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ด้วยเหตุนี้ ทำให้ในหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในสหภาพยุโรปและอเมริกา ได้มีการจำกัดปริมาณการใช้สารพาราเบนในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย เครื่องสำอางและน้ำหอมอย่างเคร่งครัด ส่วนในประเทศ เดนมาร์ก ถึงกับออกกฎหมาย “ห้าม” ใส่สารพาราเบน ในผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น เช่น ทิชชูเปียก หรือ สบู่เหลวอนามัย โดยเด็ดขาด

คำถาม คือ ในฐานะผู้บริโภค เราจะมีวิธีการอย่างไรที่จะป้องกัน ไม่ให้ร่างกายได้รับสารพาราเบนโดยไม่จำเป็น

คำตอบ คือ อัตตา หิ อัตตโน นาโถ - ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นั่นคือ ตัวเราเองจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อ เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยต้องพิจารณาที่ฉลากให้มีสัญลักษณ์

“ Paraben Free” หรือ “No Harsh chemicals or Toxic ingredients” และอ่านส่วนผสมบนฉลากทุกครั้ง ให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมต่างๆดังต่อไปนี้ methylparaben, ethylparaben, propylparaben, butylparaben, isobutylparaben,  isopropylparaben

1.  ว่านชักมดลูก – ในสารสกัดว่านชักมดลูก จะมีสารสำคัญคือ xanthorrhizol ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดี มีความสามารถในการทนต่อสภาวะต่างๆได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านอุณหภูมิและสภาพความเป็นกรดด่าง ทำให้ในต่างประเทศมีการนำสารสกัดจากว่านชักมดลูกมาใช้เป็นสารกันเสียในอาหาร แทนการใช้สารเคมีอันตรายต่างๆ ถือเป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ (Natural Preservatives) ชนิดหนึ่ง ที่ไม่เป็นอันตรายและสามารถรับประทานได้




2.     ยูคาลิปตัส – เป็นสมุนไพรอีกชนิด ที่เราเลือกใช้แทนสารกันเสียอันตราย เพราะน้ำมันหอมระเหย ยูคาลิปตัส มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อจุลินทรีย์ได้หลายชนิด ทำให้ในหลายประเทศ นำน้ำมันหอมระเหย ยูคาลิปตัส มาทำหน้าที่เป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ (Natural Preservatives) เติมลงในเครื่องดื่มหรือน้ำผลไม้กระป๋องแทนการใส่พาราเบน




3.     เกลือ – ถือเป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ (Natural Preservatives) ที่มนุษย์เราใช้มาอย่างยาวนาน ทุกยุค ทุกสมัย ทั่วโลก ในอดีต มักใช้เกลือเพื่อเป็นสารกันเสียในอาหารเป็นหลัก เช่น ในเนื้อสัตว์และปลา เพื่อให้เนื้อสัตว์ยังคง สด ได้เป็นปีๆ เพราะเกลือมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราและยีสต์ได้เป็นอย่างดี เกลือจะไปทำให้เกิดการดึงน้ำออกจากเนื้อสัตว์ ทำให้ความดันออสโมติกเปลี่ยน ซึ่งสามารถยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ และหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้สามารถถนอมอาหารได้เป็นเวลานานหลายปี ในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้เกลือ แทนสารกันเสียในเครื่องสำอาง สบู่ แชมพู และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมากขึ้น เพราะเหตุนี้ เราจึงเลือกใส่เกลือธรรมชาติ ลงในสเปรย์แก้กลิ่นตัวแรง 19 Herbal เพื่อทำหน้าที่สารกันเสียตามธรรมชาติอีกตัวหนึ่ง นอกจากเกลือจะทำหน้าที่สารกันเสียในสูตรแล้ว เกลือ ยังมีคุณสมบัติ ช่วยลดเหงื่อ และระงับกลิ่นกายด้วย เป็นการยิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัวเลยทีเดียว ที่สำคัญที่สุดคือ ปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีอันตรายเป็นไหนๆ

 อ้างอิง

1.      Trustedhealthproducts

2.      Lawamendment – ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข และ ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง

3.      beyondpesticides.org

4.      Los Angeles Times