เท้าเหม็น เหงื่อออกมาก บวกกับความชื้นในช่วงฤดูฝน อาจทำให้อาการกลิ่นเท้าเหม็นเกิดขึ้นกับคุณได้ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเท้าที่อับชื้นด้วยเหงื่อที่ออกจากเท้าตามปกติ ถูกสวมอยู่ในรองเท้าที่ชื้นแฉะ จากการโดนฝนรวมถึงความชื้นในอากาศตลอดเวลา ย่อมทำให้มีโอกาสที่เท้าเป็นเชื้อราและเกิดเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ได้มากขึ้น
แบคทีเรีย สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เท้าคุณเกิดกลิ่นเหม็นขึ้น กระบวนการทางธรรมชาติของแบคทีเรียนั้นจะอาศัยอยู่ได้ดีบนผิวและในรองเท้าที่อับชื้น โดยมันจะกินเศษหนังที่มีความอับชื้นจากเหงื่อที่ออกเท้าและจากความอับชื้นในรองเท้าเป็นอาหารเพื่อดำรงชีวิต แต่คุณสามารถลดแบคทีเรียที่เท้าและในรองเท้าได้ ด้วยการทำลายที่อยู่อาศัยของมันด้วยการทำให้เท้าและรองเท้าของเราแห้งอยู่เสมอนั่นเอง
![]()
9 วิธี ที่จะช่วยแก้เท้าเหม็น ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัวร้าย
ก่อนจะเริ่มทดลองใช้วิธีใดวิธีหนึ่งตามคำแนะนำด้านล่าง คุณควรเริ่มจากการทำความสะอาดเท้า ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ ดูแลรักษาความสะอาดที่เท้า ขัดถูทำความสะอาด ให้เหมือนทำความสะอาดร่างกายส่วนอื่นๆ หมั่นขัดให้ทั่วทั้งเท้า ไม่ว่าจะเป็นหลังเท้า ซอกนิ้ว เป็นประจำ และต้องเช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง โดยเฉพาะตามซอกเล็บ ง่ามนิ้ว ก็ต้องเช็ดให้แห้งสนิทก่อนจึงจะสวมถุงเท้าหรือรองเท้าได้
1. วิธีแก้เท้าเหม็น ด้วยน้ำส้มสายชู
การแช่เท้าในน้ำส้มสายชูนั้น เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรีย โดยเริ่มจากทำความสะอาดเท้าให้สะอาด เช็ดเท้าให้แห้งสนิทเสียก่อน แล้วจึงแช่เท้าลงในอ่างหรือกะละมังขนาดใหญ่ที่ผสมน้ำเปล่ากับน้ำส้มสายชู ในอัตราส่วนน้ำเปล่า 4 ต่อน้ำส้มสายชู 1 ส่วน โดยให้แช่เท้านาน 30 นาที สัปดาห์ละครั้ง
ข้อควรระวัง - ให้เลือกใช้น้ำส้มสายชูที่ผลิตจากธรรมชาติ คือ พวกผลไม้เป็นหลัก เพราะหากเลือกใช้น้ำส้มสายชูที่มีผลิตจากสารสังเคราะห์จะทำเกิดการระคายเคืองผิว เกิดผื่นแดง หรือรู้สึกคันได้ และหากทำเป็นประจำแล้วรู้สึกว่าเท้าเริ่มแห้งเกินไปจนแตก ให้เว้นระยะในการทำเป็น 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง แทน
2. วิธีดับกลิ่นเท้าด้วยชาสมุนไพร
ในใบชาจะมีกรดที่มีคุณสมบัติในการช่วยปิดรูขุมขนของคุณ เป็นการลดปริมาณเหงื่อออกมากได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ใบชายังทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติในการฆ่าแบคทีเรียที่เท้าของคุณอีกด้วย วิธีดับกลิ่นเท้าด้วยการแช่ใบชาสมุนไพรนั้น เริ่มจากแช่ถุงชา 2-3 ถุงหรือใบชาประมาณ 1 หยิบมือ ลงในน้ำเดือด 1-2 แก้ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วนำมาผสมกับน้ำอุณหภูมิปกติประมาณ 2 ลิตรในอ่างหรือกะละมังขนาดใหญ่ แล้วแช่เท้าลงในอ่างหรือกะละมังนาน 30 นาที โดยควรแช่เท้าในน้ำผสมใบชาเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เมื่อทำเป็นประจำเชื่อว่า กลิ่นเท้าของคุณจะค่อยๆจางลง ปัญหาเหงื่อออกมากก็จะดีขึ้นได้
ข้อควรระวัง – การแก้เท้าเหม็นด้วยการแช่เท้าในน้ำใบชา ช่วยลดเหงื่อให้น้อยลง แต่ก็ทำให้ผิวที่เท้าแห้งเกินไปด้วย จากกลุ่มทดลองส่วนใหญ่ ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเท้าเหม็นได้ในระยะยาว
การแก้เท้าเหม็นด้วยมะนาว สมารถทำได้โดยการนำเปลือกมะนาว มาขัดๆถูๆให้ทั่วเท้า เน้นเป็นพิเศษตามง่ามนิ้ว ซอกเล็บ ซึ่งเป็นที่ที่มักมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หรืออาจนำมะนาวมาคั้นแล้วนำเอาไปผสมกับน้ำเปล่าในปริมาณเท่ากัน แล้วจึงใช้สำลีชุบน้ำที่ผสมแล้ว มาทาถูให้ทั่วฝ่าเท้า นิ้ว และตามง่ามนิ้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดเท้าให้แห้งสนิท เน้นเป็นพิเศษตามง่ามนิ้ว หากทำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ อาการเท้าเหม็นที่สร้างความหนักใจให้กับคุณก็จะเริ่มดีขึ้นได้ในที่สุด
ข้อควรระวัง - ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เท้าและมือที่เราใช้ทา โดนแสงแดดแรงๆโดยตรง เพราะสาร Furanocoumarins หรือ Furocoumarins ซึ่งเป็นสารเคมีชีวภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพืชจำพวกมะนาว เมื่อทำปฏิกิริยาเคมีกับแสงแดดจะทำให้ผิวหนังอักเสบ พุพอง เป็นรอยแดง และไหม้ได้
4. แก้เท้าเหม็นด้วยการใช้สารส้ม
เนื่องจากสารส้มมีคุณสมบัติในการช่วยระงับกลิ่นได้ดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการช่วยลดเหงื่อออกมาก จึงถือเป็นวิธีแก้เท้าเหม็นอีกวิธีหนึ่งที่คนไทยนิยมใช้มาโดยตลอด เริ่มด้วยการนำสารส้มแบบผงมาละลายในน้ำอุ่น 1 กะละมัง แล้วแช่เท้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรืออาจใช้สารส้มแบบก้อน มาขัดถูให้ทั่วเท้าทั้งซอกนิ้ว หลังเท้า และฝ่าเท้าตอนที่คุณอาบน้ำ
ข้อควรระวัง - เนื่องจากคุณสมบัติของสารส้มที่ช่วยลดเหงื่อออกเท้านั้น จะทำให้ผิวหนังที่เท้าของคุณแห้งเกินไป จนอาจทำให้ส้นเท้าแตกได้ ซึ่งการที่ส้นเท้าแตกจนเป็นแผล หรือแห้งจนส้นเท้าลอกนั้น ถือเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศของเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในรองเท้าของคุณ แน่นอนว่าย่อมอาจทำให้กลิ่นเท้าเหม็นเกิดขึ้นมาได้อีกในที่สุด
5. แก้เท้าเหม็นด้วยการใช้แป้งโรยเท้า
การแก้เท้าเหม็นและรองเท้าเหม็นด้วยวิธีนี้ มักได้รับคำแนะนำจากสมาชิกในเว็บพันทิป - pantip ซึ่งก็คือแป้งตราเต่าเหยียบโลกหรือแป้งโยคี เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า แป้งฝุ่น มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับความชื้นได้ดี ดังนั้นการใช้แป้งฝุ่นโรยทั้งที่เท้าและรองเท้าก่อนสวมรองเท้า ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนไทยนิยมใช้กันมานาน เพราะจะช่วยให้เท้ารู้สึกแห้งสบายไม่อับชื้น แม้กระทั่งดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังที่มีปัญหากลิ่นเท้าเหม็น ก็ยังใช้วิธีนี้ (ฮา)
ข้อควรระวัง - เนื่องจากส่วนผสมหลักที่มีในแป้งฝุ่นคือ ทัลคัมหรือแร่ทัลค์ ซึ่งมีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นสารอนินทรีย์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ทำให้การใช้แป้งฝุ่นเป็นประจำอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการสะสมในระบบทางเดินหายใจ จนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดหรือโรคทางระบบทางเดินหายใจอื่นๆได้ ดังนั้นการใช้วิธีนี้ในการลดเหงื่อออกเท้าควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรสูดดมละอองแป้งเข้าปอดมากเกินไป ควรโรยแป้งในที่ๆผงแป้งจะไม่ฟุ้งกระจายจนเข้าจมูกได้
6. แก้เท้าเหม็นด้วย น้ำยาบ้วนปาก
การใช้น้ำยาบ้วนปากในการแก้เท้าเหม็น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ค่อนข้างได้ผลเป็นอย่างดี เพราะในน้ำยาบ้วนปากมีส่วนผสม ที่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เท้าก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้สำลีชนิดก้อนชุบกับน้ำยาบ้วนปากให้ชุ่ม แล้วนำไปเช็ดและขัดถูตามนิ้วเท้า ซอกเล็บ ส้นเท้าและผิวหนังทุกส่วนให้ทั่วเท้าหลังอาบน้ำตอนเย็น โดยให้ทำเช่นนี้ทุกวัน ก็จะช่วยให้กลิ่นเท้าเหม็นหายไปได้
หรืออาจใช้วิธีแช่เท้าในน้ำที่ผสมกับน้ำยาบ้วนปาก โดยให้ผสมในอัตราส่วน น้ำ 2 ส่วน ต่อน้ำยาบ้วนปาก 1 ส่วน ลงในอ่างหรือกะละมัง แล้วแช่เท้าทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาที โดยให้ทำซ้ำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อาการเท้าเหม็นก็จะดีขึ้นและหายไปในที่สุด
ข้อควรระวัง – แก้เท้าเหม็นด้วยน้ำยาบ้วนปากได้ผลดีก็จริง แต่เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูง จึงอาจเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ นอกจากนั้นการใช้น้ำยาบ้วนปากแก้เท้าเหม็น ยังไม่อาจครอบคลุมปัญหากลิ่นเท้าเหม็นที่เกิดจากเชื้อราหรือเชื้อจุลินทรีย์ได้
7. แก้ที่ถุงเท้า
การแก้เท้าเหม็นให้ได้ผลถาวรอย่างแท้จริง ต้องแก้ที่ถุงเท้าด้วย คุณควรเลือกใช้ถุงเท้าที่เป็นเส้นใยธรรมชาติ เช่นผ้าฝ้าย(Cotton) ผ้าวูล(Wool) แทนการใช้ถุงเท้าที่เป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์(Polyester) เช่น ถุงเท้าไนล่อน(Nylon) เพราะถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอนนั้น จะช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าถุงเท้าที่ทอจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ จึงทำให้เหงื่อที่ออกเท้าแห้งไวกว่า ไม่เกิดเป็นความอับชื้นเหมือนการใช้ถุงเท้าไนล่อน
นอกจากการเลือกวัสดุที่ถักทอถุงเท้าให้ถูกต้องแล้ว การซัก การทำความสะอาดถุงเท้าก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ควรซักทำความสะอาดถุงเท้าทุกวันหลังสวมใส่ ไม่ควรเก็บไว้จนหมักหมมแล้วนำมาซักทีละหลายๆคู่ เพราะเหงื่อจากเท้าที่สะสมอยู่ในถุงเท้าเมื่อไม่ได้รับการทำความสะอาดทันที แถมยังเก็บหมักหมมไว้ในตะกร้าจะยิ่งเกิดความอับชื้นจนเกิดเชื้อโรคขึ้นได้ ถ้าเป็นไปได้คุณควรหาเวลาแช่ถุงเท้าในน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือเดทตอลบ้างอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อราหรือเชื้อโรคต่างๆที่อาจหลงเหลือจากการซักตามปกติได้
8. วิธีแก้รองเท้าเหม็น
ในส่วนของรองเท้านั้น นอกจากการดูแลรักษาให้รองเท้าดูสวยและดูดีอยู่เสมอแล้ว คุณควรหมั่นซัก ทำความสะอาดเป็นประจำทุกสัปดาห์ ถ้ารองเท้าคู่ไหนที่ไม่ได้ใช้ก็ควรนำออกมาผึ่งลมหรือตากแดดบ้างเป็นครั้งคราว ก่อนเก็บรองเท้าหลังการใช้งานควรผึ่งแดดผึ่งลมเพื่อระบายอากาศ ระบายความชื้นเสียก่อน เพราะการที่เราเก็บรองเท้าไว้ในตู้รองเท้าที่มืดสนิทหรือในกล่องรองเท้าที่ไม่มีอากาศถ่ายเททันทีหลังการใช้งานนั้น เหงื่อและความชื้นที่มีในรองเท้าภายใต้ความมืดสนิทและไม่มีอากาศถ่ายเท ย่อมเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของเจ้าแบคทีเรียตัวร้ายได้ สิ่งสำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบคือ คุณควรมีรองเท้าที่ใส่ประจำอย่างน้อย 2 คู่ เพื่อจะได้ใส่สลับกันบ้าง เพราะการใช้รองเท้าคู่เดิมทุกวัน ทำให้เกิดความชื้นสะสมในรองเท้าอย่างแน่นอน ซึ่งความอับชื้นที่เกิดขึ้นนั้นย่อมทำให้เจ้าแบคทีเรียตัวร้ายดำรงชีวิตและเติบโตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ทำให้เกิดกลิ่นเท้าเหม็นขึ้น
9. วิธีแก้เท้าเหม็นด้วยสเปรย์ดับกลิ่นเท้า
การแก้เท้าเหม็นด้วยสเปรย์ดับกลิ่นเท้า ถือเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับผู้บริโภคในยุคนี้ แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สเปรย์ดับกลิ่นเท้าวางขายอยู่มากมาย ทำให้คุณอาจต้องเสียสตางค์และเสียเวลาในการลองผิดลองถูกเพื่อซื้อมาใช้อาจได้ผล บ้างไม่ได้ผลบ้าง เพราะสเปรย์ดับกลิ่นเท้าที่วางขายอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตาม7/11 ขายตามห้างสรรพสินค้าหรือแม้แต่ขายอยู่ในโลกออนไลน์ ก็ล้วนมีทางเลือกให้ผู้บริโภคมากมาย ซึ่งหากผู้บริโภคไม่ได้พิจารณาให้ถ้วนถี่ ก็อาจต้องเสียเงินฟรี เพราะใช้แล้วไม่ได้ผลจริงตามที่โฆษณา เพราะสเปรย์ดับกลิ่นเท้าบางยี่ห้ออาจเป็นเพียงการใช้สารส้มละลายน้ำเพื่อมุ่งเน้นในการลดเหงื่อออกเท้าเท่านั้น ซึ่งในระยะแรกที่ใช้ ผู้บริโภคอาจรู้สึกว่าใช้ได้ผลดี เพราะเหงื่อที่ออกเท้าลดปริมาณลง แต่เมื่อใช้ไปซักระยะหนึ่ง เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่ยังคงมีอยู่และเจริญเติบโตอยู่ภายในรองเท้ารวมถึงซอกเล็บหรืองามนิ้วเท้าของคุณก็จะเริ่มทำปฏิกิริยาและส่งกลิ่นเหม็นออกมาอีกในที่สุด ในขณะที่สเปรย์ดับกลิ่นเท้าบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมที่เป็นสารเคมีอันตราย ไม่ว่าจะเป็นสารกันบูด, สารอะลูมิเนียมโลหะหนัก ที่มักพบได้ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายลดเหงื่อ รวมถึงสเปรย์ดับกลิ่นเท้าบางยี่ห้อที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์แบบโลหะก็มักจะมีส่วนผสมของก๊าซบิวเทนและโพรเพนเพื่อสร้างละอองฝอยตอนฉีดพ่น ซึ่งหากร่างกายได้รับการสูดดมเข้าไปในปริมาณสูง อาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง หายใจลำบาก หรือรุนแรงจนเสียชีวิตได้
ดังนั้นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ สเปรย์ดับกลิ่นเท้า หรือ สเปรย์สมุนไพรแก้เท้าเหม็น จึงควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ไม่ใส่สารกันบูด ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ที่สำคัญควรหาข้อมูลให้ดีว่าส่วนผสมที่มีใน
สเปรย์ดับกลิ่นเท้าชนิดนั้นนั้นมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อรา ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ลดเหงื่อออกเท้าและบำรุงผิวเท้าได้อย่างครบถ้วนหรือไม่ เพราะถ้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนก็จะไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นเท้าเหม็นให้หายขาดถาวรได้ ดังจะเห็นได้จากสเปรย์แก้เท้าเหม็นบางยี่ห้อบางคนใช้ได้ผล แต่กลับใช้ไม่ได้ผลกับอีกหลายๆคน เพราะสาเหตุของการเกิดกลิ่นเท้าในแต่ละคนมันไม่เหมือนกันนั่นเอง
หน้าที่เข้าชม | 198,409 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 165,052 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |