เพราะเรารู้ว่า ทุกวันนี้ของใช้ต่างๆรอบตัวเราในชีวิตประจำวันล้วนมีอันตรายแฝงอยู่ ทำให้เรายิ่งต้องเพิ่มความใส่ใจในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดในการ
แก้เท้าเหม็น เหงื่อออกมาก และรองเท้าเหม็น ให้หายขาดอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การใช้กลิ่นหอมกลบกลิ่นเหม็นหรือการใช้สารไปอุดตันรูขุมขนเพื่อกั้นไม่ให้เหงื่อออกเท่านั้น
เพราะเรารู้ว่า สิ่งต่างๆที่เราใช้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่ว่าจะเป็นยาสีฟัน สบู่เหลว ยาสระผม แป้งฝุ่นโรยตัว โรลออนระงับกลิ่นกายและอื่นๆอีกมากมาย ล้วนมีความเสี่ยงในการสะสมสารเคมีเข้าสู่ร่างกายของเรา รวมทั้งโลกของเราในระยะยาว สารเคมีที่พบได้มาก
- สารกันบูด
ในที่นี้หมายถึง"สารพาราเบนส์" ซึ่งในประเทศไทยยังคงสามารถใช้ได้ทั่วไป เนื่องจากยังไม่มีรายงานการก่อให้เกิดพิษหรือก่อให้เกิดโรคในมนุษย์แต่อย่างไร แต่จากการทดลองใช้สารพาราเบนส์ในหนูทดลองพบว่า สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้ แต่ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศในยุโรปล้วนระงับการใช้สารพาราเบนส์เป็นสารกันบูดแล้ว ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้บริโภคต่างก็เลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีป้ายสัญลักษณ์ PARABEN FREE ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีพาราเบนส์เป็นส่วนผสม เพราะอย่างไรก็ตามการใช้สารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน ย่อมอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ไม่มากก็น้อย
2. อลูมิเนียมคลอไฮเดรท (Aluminum chlorohydrate)
สารละลายเกลืออลูมิเนียม เป็นสารระงับเหงื่อที่ใช้มากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเกลืออลูมิเนียมจะทำงานโดยไปอุดตันรูขุมขนและปลายต่อมเหงื่อ เพื่อบล็อคไม่ให้เหงื่อออก ซึ่งหากมีการใช้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการสะสมและการตกค้างของสารในบริเวณใต้วงแขนเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นสารตกค้างขึ้นบริเวณต่อมใต้รักแร้ จากรายงานวิจัยของวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า สารตกค้างเกลืออลูมิเนียมนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมทั้งในหญิงและชายได้ไม่มากก็น้อย
3. ก๊าซบิวเทนและโพรเพน
เป็นสารเป่าละออง (Aerosol propellant) ในผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในสเปรย์แบบอัดแก๊ส ซึ่งหากได้รับสารทั้ง 2 ชนิดมากเกินไปและสะสมเป็นเวลานาน อาจมีอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งมีรายงานการเสียชีวิตในชายวัยรุ่น จากการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายในประเทศอังกฤษแล้วถึง 2 ราย หากใช้ผลิตภัณฑ์ประเทศดังกล่าวจึงควรใช้ครั้งละปริมาณน้อย ใช้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการใช้ครั้งละมากๆและในที่อากาศปิดเช่นในห้องน้ำที่ไม่มีพัดลมระบายอากาศ หรือในห้องนอนที่เปิดเครื่องปับอากาศ
4. แป้งทัลคัม
Talc ที่ปนเปื้อนแร่ใยหิน(Asbestos) เป็นสารอนินทรีย์ ซึ่งย่อยสลายไม่ได้ตามธรรมชาติ จะสามารถสะสมในปอดและระบบทางเดินหายใจ จนอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า ผู้หญิงที่ใช้แป้งกับอวัยวะเพศเพื่อลดการอับชื้น จะมีอัตราเสี่ยงจากการจะเป็นมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้น ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และ U.S. Environmental Protection Agency จัดให้Talcที่ปนเปื้อนแร่ใยหิน(Asbestos) เป็นสารก่อมะเร็งที่ไม่สามารถจัดจำพวกได้
เมื่อเราทราบแล้วว่าสิ่งต่างๆรอบตัวเรามีสารที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้อย่างไรแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต่างๆเหล่านี้ ด้วยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์โดยดูส่วนผสมที่ฉลากสินค้าด้วยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ฉลาดคิด ฉลาดเลือก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดที่คุณเลือกเอง