การเลือกแชมพูที่เหมาะกับคุณขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นผมและความต้องการ ผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เราเน้นย้ำอยู่เสมอเป็นหลักยึด สำหรับการเลือกซื้อยาสระผมที่คุณห้ามมองข้าม คือ ต้อง ปราศจากซัลเฟต, SLS, SLES, พาราเบน และ Cocamide DEA
1. ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน: แชมพูที่ดีจะทำความสะอาด ล้างสารเคมีและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนเส้นผมและหนังศีรษะ โดยไม่ทำลายความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของหนังศีรษะและเส้นผมออกไปจนหมด และไม่ทำร้ายเกล็ดผม ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเส้นผมจากความเสียหาย ทั้งจากการทำสี ฟอก เคมี และมลภาวะ
2. ฟื้นฟู ซ่อมแซม: เส้นผมที่ผ่านการทำเคมี ทำสี ดัด ฟอก ย้อม หรือ ความร้อนจากไดร์เป่าผม ล้วนทำให้เส้นผม และหนังศีษะเสียหาย ยาสระผมที่ดี จึงควรมีส่วนประกอบที่ช่วยซ่อมแซมเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น และลดการแตกหักของเส้นผม ตัวอย่างเช่น ควรมีส่วนประกอบที่ช่วยซ่อมแซมเส้นผมเสริมสร้างเช่น โปรตีน คอลลาเจน เคราติน เพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากการทำเคมี ทำสี หรือการใช้ความร้อนจากเครื่องเป่าผม
3. เลือกใช้ตามประเภทของเส้นผมและหนังศีรษะ: สำหรับเส้นผมที่เล็ก ร่วงง่าย ผมบาง หนังศีรษะมันเร็ว และหนา คุณอาจต้องการใช้แชมพูที่มีส่วนประกอบที่ช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ และไม่ทำให้ผมลีบ แบน เช่น ยาสระผมแก้ผมร่วง แชมพูลดผมร่วง 22Herbal ในขณะเส้นผมที่อ่อนแอ ผมแห้งเสียการทำเคมี ผมของคุณจะชี้ ฟู ขาดง่าย คุณอาจต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมของคุณเป็นพิเศษ ก็ควรเลือกก็แชมพูที่เน้นการบำรุง ฟื้นฟู ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก หวีลื่น จัดทรงง่าย แต่หากคุณ มีปัญหาเรื่องรังแค คันหนังศีรษะ คุณก็ควรเลือกใช้แชมพูที่เน้นคุณสมบัติในการขจัดรังแค เป็นต้น
4. ปรับสภาพและคืนความสมดุลให้หนังศีรษะ: ค่าpH ของเส้นผมจะอยู่ประมาณ 4 ในขณะที่ pHหนังศีรษะอยู่ประมาณ 5.5 ซึ่งถือว่ามีความเป็นกรดอ่อน ๆ ในขณะที่ น้ำประปา มีค่า pH ที่ 7 ซึ่งมีความเป็นกลาง แต่แชมพูทั่วไป มักมีค่า pH ที่ 7-8 ซึ่งจัดว่าเป็นเบส หรือ ด่าง จึงทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเสียสมดุล ซึ่งจะทำให้หนังศีรษะระคายเคือง เกิดรังแค และผมแห้ง ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่หนังศีรษะมันง่าย หรือ ทำกิจกรรมหนักทุกวัน อาจจะต้องตั้งคำถามว่า ยาสระผมยี่ห้อไหน สระได้ทุกวัน ฉะนั้นคุณยิ่งจำเป็นต้องใส่ใจ พิจารณาแชมพูที่มีค่า pH Balance ค่าที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะยาสระผมที่มีค่า pH 4.5 - 5.5 จะช่วยคืนสมดุล ปรับสภาพให้เส้นผมและหนังศีรษะมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น และมีการยึดเกาะกันอย่างเหนียวแน่น เพื่อเป็นเกราะป้องกันมลภาวะ และแบคทีเรีย หนังศีรษะคุณจึงชุ่มชื้นขึ้น เส้นผมจึงนุ่ม สลวย สุขภาพดี
5. ประสิทธิภาพในการทำให้เส้นผมนุ่ม ลื่น หวีง่าย: แชมพูที่ดีควรทำให้เส้นผมนุ่ม ลื่น เรียบ หวีง่าย ซึ่งแชมพูส่วนใหญ่จึงมักมีซิลิโคน เพื่อจุดประสงค์ในการเคลือบเส้นผม คุณจึงรู้สึกผมลื่น หวีง่ายทั้งตอนเปียกและแห้ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ซิลิโคนเหล่านั้นจะตกค้าง สะสม จนเคลือบเกาะบนเส้นผมและหนังศีรษะ เมื่อรวมตัวกับเหงื่อและเซลล์หนังศีรษะที่ตายแล้วก็จะทำให้เกิดปัญหากับหนังศีรษะ เช่น รังแค คัน สิวหรือสะเก็ดขึ้นที่หนังศีรษะ อุดตันรูขุมขน จนอาจทำให้ผมร่วง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผมในระยะยาว ดังนั้น คุณจึงควรเลือกใช้แชมพู ที่หลีกเลี่ยงการใช้ซิลิโคน โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ วิตามิน หรือสารบำรุงผม Cationic(ประจุบวก) ที่จะบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างต่อเนื่องแม้หลังล้างออก โดยไม่ทำให้เกิดการ Build-up แทน
6. กลิ่นหอมที่ไม่ใช่น้ำหอม: เพราะน้ำหอม จัดเป็นเคมีที่อาจส่งผลเสียต่อสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ถ้าจะถามว่า ยาสระผมยี่ห้อไหนหอม เราอยากให้คุณพิจารณาแชมพูที่ใช้กลิ่นหอมบำบัด จาก Essential oil ซึ่งนอกจากจะให้ความหอม และผ่อนคลายความเครียดแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตบนหนังศีรษะให้ทำงานดีขึ้น แชมพูสระผมหอม ๆ พร้อมไปกับการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอีกทางหนึ่งย่อมดีที่สุด
หน้าที่เข้าชม | 198,688 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 165,331 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 16 ก.ย. 2568 |